ไขมัน 1 kg มีขนาดเท่าไหร??

เพื่อนๆหลายคนคงเคยอาจจะงงๆ กับการใช้สายตาประเมินความอ้วนกับคนรอบๆตัวมาบ้าง ว่าบางครั้งคนรูปร่างสัดทัดแต่ทำไมน้ำหนักตัวกลับมากกว่า คนถ้วมๆ หรือคนถ้วมๆบ้างคนน้ำหนักน้อยกว่าเราอีกทั้งที่ส่วนสูงก็ใกล้เคียงกัน

วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน เหตุผลหลักอยู่ที่ความหนาแน่นครับ นี้เป็นภาพ จำลองขนาดของไขมัน(ล่าง) เละกล้ามเนื้อ(บน) ที่มีน้ำหนักเท่ากันที่ 1kg เนื้อเเดงหรือกล้ามเนื้อเราจะมีน้ำหนักเเละความหนาเเน่นกว่าไขมันอยู่มาก จึงทำให้มีขนาดที่เล็กกว่าเเต่หนักกว่ามาก

จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พลาดในการประเมินคนด้วยสายตากันครับ

ความเข้าใจผิดเกี่ยวการลดความอ้วนก็คือ ความคิดที่จะลดความอ้วนเฉพาะจุด โดยเฉพาะที่พุงหรือหน้าท้องด้วยการนอนแล้วยกขาขึ้นลง ซิทอัพ เล่นยางยืดออกกำลังกายหรือเครื่องบริหาร AB ต่างๆนั้น จริงๆ แล้วมันไม่ได้ช่วยให้ไขมันส่วนท้องลดลงเฉพาะจุดได้หรอกครับ การออกกำลังเฉพาะส่วนทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ แข็งแรงและทนทานขึ้นจริง แต่แทบไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณไขมันเลย

แต่ถึงการออกกำลังกายดังกล่าวจะไม่ได้ช่วยทางตรงในการลดความอ้วน แต่การที่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นจะทำให้ร่างกายเราเผาผลาญ หรือใช้พลังงานมากแม้จะทำกิจกรรมเท่าเดิม และยังทำให้ร่างกายมีความทนทานมากขึ้นด้วยในการไปออกกำลังกายแบบ Cardio ที่เป็นการออกกำลังกายที่เน้นเผาผลาญพลังงานให้มาก เช่น เต้นแอนโรบิค วิ่ง ปันจักรยาน สรุปคือการออกกำลังกายก็ยังดีมีประโยชน์ทุกอย่าง แต่อาจจะไม่ตรงจุดเรื่องลดน้ำหนักเท่านั้น

คราวนี้มาทำความเข้าใจเรื่องการสะสมของไขมันในร่างกายเป็นแบบเข้าก่อนแต่ออกที หลัง (First In Last Out , FILO) แบบผิดหลักการบริหารสต๊อกที่หลายคนรู้จักกันดีแบบสิ้นเชิง คือส่วนที่เข้าไปสะสมก่อนจะยุบทีหลังสุด การสะสมของไขมันจะเริ่มสะสมโดยทั่วไปเรียงตามลำดับจากแรกไปสุดท้าย คือ ท้อง ต้นขา หลัง คางและใบหน้า ถ้ามีการลดน้ำหนัก ไขมันจะเริ่มถูกดึงไปใช้โดยเริ่มต้นจาก ใบหน้า คาง หลัง ต้นขา และหน้าท้องหรือพุงก็จะลดทีหลังสุด

วิธีการเดียวที่จะลดน้ำหนักได้ดีคือ ดูแลอาหารและออกกำลังกายเท่านั้นครับ โดยให้พลังงานที่กินเข้าไปต้องน้องกว่าที่ใช้ในแต่ละวัน เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่กำลังพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นนะครับ